โซน B กลุ่มสัตว์น้ำกร่อย กลุ่มปลาเศรษฐกิจ



โซน B กลุ่มสัตว์น้ำกร่อย กลุ่มปลาเศรษฐกิจ


ปลากะพงขาว 
http://www.thailandoffroad.com/jeep/board/picture%5C241254918175.jpg

ชื่อวิทยาศาสตร์ :Latescalcarifer 
ลักษณะทั่วไป :ลักษณะของกะพงขาว เป็นปลาน้ำกร่อยที่มีรูปร่างยาว ลำตัวหนาและด้านข้างแบน หัวโต จะงอยปากค่อนข้างยาวและแหลม นัยน์ตาโต ปากกว้างยืดหดได้ มุมปากอยู่เลยไปทางหลังนัยน์ตา ฟันเป็นฟันเขี้ยวอยู่บนขากรรไกรบนและล่าง ขอบกระดูกแก้มเป็นหนามแหลม ขอบกระดูกกระพุ้งเหงือกแข็งและคม คอดหางมีขนาดใหญ่และแข็งแรง เกล็ดใหญ่มีขอบหยักเป็นหนามเมื่อลูบจะสากมือ ครีบหลังอันแรกมีก้านครีบเป็น หนามแข็ง ปลายแหลม อันที่สองเป็นครีบอ่อนมีขนาดใกล้เคียงกัน ครีบใหญ่ปลายกลมมน พื้นลำตัวสีขาวเงินปนน้ำตาล แนวสันท้องสีขาวเงิน
แหล่งที่อยู่ :พบกะพงขาวชายฝั่งทะเลและปากแม่น้ำซึ่งเป็นแหล่งน้ำกร่อย อพยพย้ายถิ่นเข้ามาหาอาหารและอาศัยในแม่น้ำเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร

ปลาช่อนทะเล

http://www.aquatoyou.com/images/fish/marine%20fish/Rachycentron%20canadum.jpg

ชื่อวิทยาศาสตร์:Rachycentroncanadus
ลักษณะทั่วไป :ลักษณะของช่อนทะเล เป็นปลาทะเลที่มีลำตัวค่อนข้างกลมยาวเรียว ส่วนหัวแบนลาด ครีบหลัง 2 ส่วน ส่วนหน้าเป็นครีบหนามสั้น ๆ ไม่มีก้านครีบฝอย ส่วนหลังจะยกสูงขึ้นในตัวเต็มวัย ครีบก้นมีลักษณะเช่นเดียวกับครีบหลัง ครีบหางเว้าเป็นรูปวงพระจันทร์ ลำตัวมีสีน้ำตาลเข้มและมีเส้นสีน้ำเงินพาดตามความยาวของลำตัวข้างละ 2 แถบ ด้านท้องมีเส้นสีเหลือง
แหล่งที่อยู่ :พบช่อนทะเลพบแพร่กระจายในอ่าวไทยทั้งในบริเวณน้ำลึกและชายฝั่งบริเวณกองหินปะการังและปากน้ำ


ปลาตีน
http://sv5.postjung.com/imgcache/data/665/665001-topic-ix-1.jpg

ชื่อวิทยาศาสตร์:Periophtalmuschrysosphilos
ลักษณะทั่วไป :หัวมีขนาดโต มีตาหนึ่งคู่ตั้งอยู่ส่วนบนสุดของหัวโปนออกมาเห็นได้ชัด ดวงตาสามารถกรอกไปมาได้ จึงใช้มองเห็นได้ดีเมื่อพ้นน้ำ สามารถเคลื่อนที่บนบกได้ โดยใช้ครีบอกที่แข็งแรงไถลตัวไปตามพื้นเลนและสามารถกระโดดได้ด้วย และสามารถใช้ชีวิตอยู่บนบกได้เป็นเวลานานเนื่องจากมีอวัยวะพิเศษอยู่ข้างเหงือกที่สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ตำแหน่งของปากอยู่ปลายสุดของหัวขนานกับพื้น หากินในเวลาน้ำลดโดยกินอาหารจำพวกสัตว์น้ำขนาดเล็กในพื้นเลน ทำให้ดูแลผิวเผินเหมือนสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมากกว่าปลาปกติปลาตีนจะอาศัยอยู่รวมกันหลายตัวไม่มีออกนอกเขตของตัวเอง เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ปลาตีนตัวผู้จะมีสีเข้มขึ้นและมีอาณาเขตของการสืบพันธุ์ โดยจะมีการสร้างหลุมซึ่งมันจะใช้ปากขุดโคลนมากอง บนปากหลุม เรียกว่า หลุมปลาตีน และมีพฤติกรรมหวงเขตแดนเมื่อมีปลาตีนตัวอื่นรุกล้ำ โดยจะแสดงการกางครีบหลังขู่ และเคลื่อนที่เข้าหาผู้รุกล้ำทันที ปลาตีนตัวผู้และตัวเมียจะผสมพันธุ์ในหลุมที่ตัวผู้ขุดไว้
แหล่งที่อยู่ :อาศัยและหากินตามดินเลนมักเป็นช่วงเวลาน้ำลงมากกว่าช่วงอื่น และมักพบอาศัยอยู่บริเวณดินโคลนในป่าชายเลน หาดเลนที่เปิดโล่ง ริมร่องน้ำที่อยู่ตามขอบนอกของป่าชายเลน มีการปรับตัวจนมีลักษณะสัณฐานต่างจากปลาอื่น คือ ชอบอาศัยบนผิวเลนมากกว่าการดำมุดอยู่ใต้น้ำ กระพุ้งแก้มที่ปิดเหงือกจะโป่งออกเพื่อให้อุ้มน้ำได้ดี เหมาะแก่การหายใจขณะอาศัยอยู่บนผิวเลน มีลักษณะเด่นอีกอย่างคือ ลูกตาที่โป่งนูนอยู่บนหัวทำให้มองเห็นเด่นชัด

โซนD เรียกว่าโซน Big Tank จัดแสดงสัตว์น้ำเค็มต่างๆ


โซนD เรียกว่าโซน Big Tank จัดแสดง
สัตว์น้ำเค็มต่างๆ

เต่าตนุ
ที่มา : http://marinegiscenter.dmcr.go.th/km/wp-content/uploads/2013/08/turtle.jpg

ชื่อวิทยาศาสตร์ :Cheloniamydas
ลักษณะทั่วไป:ลักษณะของเต่าตนุ เป็นเต่าทะเลที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และน้ำหนักมาก หัวป้อมสั้น ปากสั้น เกล็ดเรียงต่อกัน (ไม่ซ้อน) กระดองหลังโค้งนูนเล็กน้อย บริเวณกลางหลังเป็นแนวนูนเกือบเป็นสัน ท้องแบนราบขาทั้ง 4 แบน เป็นใบพาย ขาคู่หลังมีขนาดเล็กกว่าขาคู่หน้ามาก ขาคู่หน้ามีเล็บแหลมเพียงข้างละชิ้นสีของกระดองดูเผิน ๆ มีสีน้ำตาลแดงเท่านั้น แต่ถ้าหากพิจารณาให้ละเอียด จะเห็นว่าเกล็ดแต่ละเกล็ดของกระดองหลังมีสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลอมเขียว ขอบเกล็ดมีสีอ่อน ๆ เป็นรอยด่างและมีลายเป็นเส้นกระจายออกจากจุดสีแดงปนน้ำตาล คล้ายกับแสงของพระอาทิตย์ที่ลอดออกจากเมฆ จึงมีผู้เรียกเต่าชนิดนี้ว่า "เต่าแสงอาทิตย์" ส่วนที่ชาวยุโรปเรียกว่า "เต่าเขียว" นั้นมีอยู่ 2 ประการ ประการแรกคือ กระดองหลังมีสีเหลืองปนเขียวประการหนึ่ง ส่วนประการที่สองคือ น้ำมันที่ได้จากไขมันของเต่าตนุจะมีสีเขียว
แหล่งที่อยู่ :พบเต่าตนุพบมากในบริเวณอ่าวไทย ทางจังหวัดภาคใต้และทางฝั่งทะเลอันดามัน

ปลาหมอทะเล
ที่มา : http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/08/X10893455/X10893455-63.jpg
ชื่อวิทยาศาสตร์:Epinephelus
ลักษณะทั่วไป : ร่างยาวอ้วนป้อม แบนข้างเล็กน้อย เกล็ดมีขนาดเล็ก สีตามตัวและครีบเป็นดอกดวง แต้ม หรือบั้ง ฉูดฉาดหรือคล้ำทึบแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาด
แหล่งที่อยู่ :พบอาศัยอยู่ตามบริเวณแนวปะการัง โขดหินใกล้ชายฝั่งหรือเกาะบางครั้งอาจพบว่ายเข้ามาหากินบริเวณปากแม่น้ำที่เป็นน้ำกร่อยได้ด้วย
ปลากระเบน
ที่มา : http://www.siamrath.co.th/web/sites/default/files/666_3.jpg?1313409548
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Himanturachaophraya
ลักษณะทั่วไป:ลักษณะของกระเบนน้ำจืด ลำตัวแบน ทรวดทรงมีลักษณะคล้ายจานหรือว่าว ครีบหูเชื่อมเป็นแผ่นเดียวกับลำตัวส่วนยาวของลำตัวยาวกว่าส่วนกว้าง ส่วนของจะงอยปากยื่นออกมาเป็นปลายแหลม ครีบหางแหลมเรียวยาวมีลักษณะคล้ายแซ่ โคนหางมีเงี่ยงแหลมคม 2 อัน มีต่อมพิษอยู่ใกล้ ๆ กับโคนหาง ซึ่งจะปล่อยพิษออกทางเงี่ยงได้
แหล่งที่อยู่ :กระเบนน้ำจืดพบในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำโขง ในท้องถิ่นหลายจังหวัด เช่นอุบลราชธานี นครพนม และหนองคาย

โซน C กลุ่มสัตว์น้ำเค็ม กลุ่มปลาสวยงาม ปะการัง

โซนซี กลุ่มสัตว์น้ำเค็ม กลุ่มปลาสวยงาม ปะการัง
https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSy8HegxskLKpmsryV-fmSai11nlOUiH28ATNe6PPSvx9pxJ9kdYQ
 ปลาผีเสื้อนกกระจิบ
ชื่อวิทยาศาสตร์:Chelmonrostratus
ลักษณะทั่วไป : มีลำตัวแบนข้าง ลบลำตัวมีสีขาวคาดด้วยแถบสีส้มจำนวน 4 แถบ โดย 2 แถบแรกมีขอบสีดำตัดบาง ๆ ทั้งด้านหน้าและหลัง ปลายครีบบนและครีบล่างเจือด้วยปื้นสีส้ม โคนหางมีจุดสีดำเล็ก ๆ และมีจุดสีดำขนาดใหญ่บริเวณโคนครีบบนหนึ่งจุด คล้ายตา เพื่อใช้หลอกล่อศัตรูให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นดวงตาจริง ๆ ในขณะที่ดวงตาแท้ ๆ มีแถบสีส้มคาดเพื่ออำพรางไม่ให้ดูเด่นกว่าจุดวงกลมสีดำนั้น ปากยื่นยาวและมีขนาดเล็กคล้ายหลอด ใช้สำหรับดูดกินหรือแทะกินสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก หรือ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังต่าง ๆ ที่อาศัยตามแนวปะการังที่หลบตามซอกหลีบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วยังสามารถกินดอกไม้ทะเลแก้ว (Aiptasia spp.) ซึ่งเป็นดอกไม้ทะเลขนาดเล็กที่หนวดพิษสามารถทำร้ายปะการังได้ด้วย นับเป็นปลาที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในทะเลชนิดหนึ่ง

กุ้งการ์ตูน
http://www.clipmass.com/upload/news/7/6489_full.jpg

ชื่อวิทยาศาสตร์ :Hymenocerapicta ( Dana, 1852) 
ลักษณะทั่วไป :ลำตัวสีขาว มีลวดลายสวยงาม มีสีสันที่แตกต่างกันในแต่ละถิ่นอาศัย กุ้งการ์ตูนที่พบในมหาสมุทรแถบ Indo-West Pacific มีลายจุดแต้มโทนสีฟ้าหรือสีน้ำเงินบริเวณขอบด้านนอก  สำหรับกุ้งการ์ตูนที่พบบริเวณมหาสมุทร Central-Eastern Pacific โดยเฉพาะที่เกาะฮาวาย มีลายจุดแต้มโทนสีม่วงหรือสีม่วงอมแดง ทั้งสองชนิดจะมีสีเหลือง สีเหลืองอมส้มหรือสีน้ำตาลอยู่ภายในลายจุดและมีลวดลายสีน้ำเงิน สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาลที่ก้ามและบริเวณส่วนหัว ลำตัวสั้นและกว้าง มีกรีเล็กและยื่นไปไม่ยาวกว่าตา มีขาทั้งหมด 5 คู่ (Pereiopod) ขาเดิน2 คู่แรก เปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่เป็นเขี้ยว (Claws) สำหรับคุ้ยหรือตะล่อมอาหาร และเปลี่ยนเป็นอาวุธป้องกันตัวเอง และมีขาเดินจำนวน 3 คู่  มีความยาวประมาณ 2-3 นิ้ว  
แหล่งที่อยู่ :กุ้งการ์ตูนเป็นกุ้งทะเลขนาดเล็ก มักพบอยู่เป็นคู่อาศัยอยู่ตามโพรงหินหรือซอกหินที่ค่อนข้างมืดในแนวปะการัง

 ปลาชะโด
http://www.fisheries.go.th/if-nakhonsawan/web2/images/stories/C.microlepeltes.jpg

ชื่อวิทยาศาสตร์ :Channamicropeltes
ลักษณะทั่วไป :ลักษณะของชะโด เป็นปลาน้ำจืดที่ค่อนข้างดุ ลำตัวเรียวยาวเป็นรูปทรงกระบอก ลักษณะครีบต่าง ๆ คล้ายกับปลาช่อน แต่เมื่อเติบโตเต็มวัยมีขนาดใหญ่กว่า ขณะยังเป็นปลาเล็กลำตัวจะมีแถบสีเหลืองอมส้มสดใส และมีแถบสีแดงหรือส้มปรากฎให้เห็น 1 แถบ พาดตามความยาวลำตัว เมื่อหลาชะโดมีอายุมากขึ้นลายสีเหลืองเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลปนดำพร้อมทั้งมีแถบสีดำ 2 แถบ เมื่อปลาความยาวลำตัว 40-50 ซ.ม. แล้วแถบสีและลายต่าง ๆ ลบเลือนไป สีลำตัวของปลาก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มเหลือบเขียวตลอดตัว
แหล่งที่อยู่ :พบชะโดในแม่น้ำ และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

ปลาไหลทะเล
https://i.ytimg.com/vi/yYvCRxTbX0Y/maxresdefault.jpg
ปลาตูหนา หรือ ปลาไหลหูดำ หรือปลาไหลทะเล
ชื่อวิทยาศาสตร์:Anguilla bicolor
ลักษณะโดยทั่วไป:เหมือนปลาสะแงะ (A. bengalensis) ซึ่งอยู่ในวงศ์และสกุลเดียวกัน แต่ปลาตูหนามีรูปร่างที่เล็กกว่า ครีบอกของปลาตูหนามีสีคล้ำ ในปลาโตเต็มวัยครีบหลังและครีบก้นมีสีคล้ำด้วยเช่นกัน จึงเป็นที่มาของชื่อว่า ปลาไหลหูดำ ลำตัวสีน้ำตาลอ่อนไม่มีลวดลาย ใต้ท้องสีขาว ขนาดโตเต็มที่ได้ 1.5 เมตร
แหล่งที่อยู่ :ป่าชายเลนหรือปากแม่น้ำ

โซน A กลุ่มสัตว์น้ำจืด และกลุ่มปลาบริเวณต้นน้ำ

โซนเอ กลุ่มสัตว์น้ำจืด และกลุ่มปลาบริเวณต้นน้ำ

ปลาคาร์ฟ

ที่มา:http://dictionary.sanook.com/search/dict-fish
ชื่อวิทยาศาสตร์ : cyprinus carpio linn
ลักษณะทั่วไป : โดยทั่วไปปลาเพศเมียจะมีความกว้างของลำตัวมากกว่าปลาเพศผู้ บริเวณส่วนท้องจะใหญ่ นิ่ม ช่วงหัวจะกลม และป้านกว่าเพศผู้ ในฤดูสืบพันธุ์ปลาเพศเมียที่มีไข่แก่สมบูรณ์ จะมีส่วนท้องขยายกว้างใหญ่ออกจนถึงเกือบจะเป็นรูปสามเหลี่ยม เมื่อจับหงายท้องดูที่ช่องเพศจะสังเกตเห็นช่องเพศใหญ่และนูนออกเป็นรูปกลม ส่วนปลาเพศผู้ช่องเพศมีลักษณะเล็กเรียวกว่า และเว้าข้างในเล็กน้อย เมื่อจับรีดท้องเพียงเบา ๆ จะมีน้ำเชื้อสีขาวไหลออกมา และเมื่อเอามือลูบบริเวณแก้มหรือครีบหูจะรู้สึกสาก ๆ
แหล่งที่อยู่ : ดำรงชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำจืด ที่มีอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้ดีมาก แม้ในสภาพอากาศร้อนปลาชนิดนี้ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศได้ จึงแพร่ขยายพันธุ์ออกไปได้ทั่วโลก

ปลานิล


ที่มา : http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=667637

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Oreochromis niloticus
ลักษณะทั่วไป : ปลานิลมีเป็นรูปร่างคล้ายปลาหมอเทศ (O. mossambicus) แตกกันที่ปลานิลมีลายสีดำและจุดสีขาวสลับกันไป บริเวณครีบหลัง ครีบก้นและลำตัวมีสีเขียวปนน้ำตาล มีลายดำพาดขวางตามลำตัว มีความยาวประมาณ 20-25 เซนติเมตร
ปลากระโห้
ที่มา: http://board.postjung.com/679616.html
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Catlocarpio siamensis
ลักษณะทั่วไป : ลักษณะของปลากระโห้ เป็นปลาน้ำจืดชนิดมีเกล็ดที่มีขนาดใหญ่สุดในโลกชนิดหนึ่ง มีรูปร่างทั่วไปคล้ายคลึงกับพวกปลาตะเพียน ลำตัวค่อนข้างป้อมแบนข้าง ส่วนของลำตัวบริเวณถัดจากช่องเปิดเหงือกโค้งเป็นสันนูนขึ้นมา หัวโต ความยาวของหัวจะประมาณหนึ่งในสามของลำตัว นัยน์ตาโตอยู่ใกล้ปลายจะงอยปาก ไม่มีหนวด ปากกว้าง มีฟันในลำคอหนึ่งแถว เกล็ดกลมมนขอบเรียบ ขนาดของเกล็ดขึ้นอยู่กับขนาดของปลา ในเอกสารทางวิชาการรายงานว่าปลากะโห้ขนาดใหญ่เกล็ดมีความยาวถึง 6.8 ซ.ม. ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับฝ่ามือเด็ก ครีบหลังสูง ครีบหางเป็นแฉกเว้าลึก ครีบก้นค่อนข้างยาว ครีบหู และครีบท้องมีขนาดใกล้เคียงกัน ปลากะโห้ในบ้านเรามีรูปร่างลักษณะเหมือนกับปลากะโห้อินเดีย แตกต่างกันตรงที่กะโห้อินเดียมีหนวด นัยน์ตาพองโตกว่าและมีฟันที่ลำคอสองแถว สีของปลากะโห้โดยทั่วไป ลำตัวมีสีเทาปนดำ สีของเกล็ดด้านหลังจะเข้มกว่าด้านข้างและด้านท้อง ครีบทุกอันมีสีแดงปนส้ม
แหล่งที่อยู่ : ปลากระโห้เคยชุกชุมใน ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงบึงบอระเพ็ด ในปัจจุบันมีปริมาณน้อยลงมาก แต่ก็ยังมีปรากฎให้พบเห็นอยู่บ้างในลำน้ำโขง ชาวบ้านแถบนั้นเรียกชื่อปลาว่า ปลากะมัน หรือหัวมัน
ปลากราย
ที่มา : http://board.postjung.com/679616.html
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chitala ornata
ลักษณะทั่วไป : ลักษณะของปลากราย เป็นปลาน้ำจืดที่มีรูปร่างแปลกกว่าปลาอื่น คือ ลำตัวด้านข้างแบนมาก ท้องแบนเป็นสันเละมีหนามแหลมแข็งฝังอยู่เป็นคู่ จะงอยปากสั้นทู่ นัยน์ตาเล็ก ปากกว้าง มีฟันเล็กและแหลมอยู่บนขากรรไกรทั้งสองข้าง ข้างลำตัวเหนือครีบก้น แต่ละด้านมีจุดกลมขนาดใหญ่สีดำ ขอบสีขาวเรียงเป็นแถว จำนวน 5-10 จุด ปลากรายชอบผุดขึ้นมาทำเสียงที่ผิวน้ำแล้วม้วนตัวกลับให้เห็นสีเงินขาว
แหล่งที่อยู่ : ปลากรายพบทั่วไปตามแม่น้ำ ลำคลอง หนองบึง ภาคเหนือเรียกว่า ปลาหางแพน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่าปลาตองกราย

ปลาสวาย

ที่มา :https://www.google.co.th/search?q=สปาปลา&biw=1366&bih
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pangasianodon hypophthalmus
ลักษณะทั่วไป : เป็นปลาน้ำจืดที่ไม่มีเกล็ด ชอบอยู่รวมฝูง อยู่ในสกุลเดียวกับปลาเทโพ มีรูปร่างลักษณะและขนาดตลอดจนความเป็นอยู่คล้ายปลาเทโพ ลำตัวเรียวยาว ด้านข้างมีสัณฐานอวบกลม มีสันหลังค่อนข้างตรง ส่วนหน้าจะลาดลงไปจนถึงบริเวณปาก หน้าทู่ ปากกว้าง มีหนวดสั้น 2 คู่ ลำตัวมีสีนวลขาว บริเวณหลังมีสีหม่นเข้ม บริเวณครีบจะมีสีเหลืองอ่อน แต่ปลายหางครีบหลังและครีบอกจะมีสีค่อนข้างหม่น ปลาสวายขนาดเล็กจะมีแถบสีดำพาดตามลำตัว
แหล่งที่อยู่ : สวายพบเห็นตามแม่น้ำลำคลอง ในที่ร่มใกล้พืชพันธุ์ไม้น้ำ หรือบริเวณใต้แพ กร่ำ หรือใต้กอผักตบชวา นับแต่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาไปถึงจังหวัดนครสวรรค์และในลำน้ำโขง
ปลาแรด

ที่มา : http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Osphronemus goramy
ลักษณะทั่วไป : ลักษณะของปลาแรด เป็นปลาขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์ปลาหมอ ปลาทุกชนิดที่อยู่ในวงศ์นี้จะต้องมีอวัยวะพิเศษเพื่อช่วยในการหายใจ จึงสามารถอาศัยอยู่ในน้ำจืดที่มีออกซิเจนต่ำ ๆ ได้ ปลาแรดมีรูปร่างด้านข้างแบนส่วนกว้างของลำตัวมีขนาดไล่เลี่ยกับความยาว หัวเล็ก ไม่มีหนวด กระดูกแก้มมีขอบเป็นจักร เมื่อเอามือจับจะรู้สึกสาก ลักษณะของเกล็ดคล้ายเกล็ดปลาหมอ ครีบหลังและครีบก้นมีก้านเป็นหนามแข็ง ครีบอกมีขนาดเล็ก ก้านครีบเดี่ยวอันหน้าและครีบอกเปลี่ยนรูปเป็นรยางค์ยาว ปลาแรดมีสีส้นแตกต่างกันตามขนาดและอายุของปลา คือ ขนาดเล็กความยาว 5-7 ซ.ม. ลำตัวมีสีม่วงปนเหลือง และมีแถบสีดำข้างละ 8 แถบ มีจุดสีดำที่โคนหางข้างละจุด เมื่อปลามีขนาดใหญ่ขึ้นสีของลำตัวตอนบนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ด้านล่างเป็นสีขาวเงินแกมเหลือง การวางไข่ของปลาชนิดนี้แตกต่างไปจากปลาชนิดอื่น กล่าวคือมันจะใช้กิ่งไม้ ก้านไม้และวัตถุอื่น ๆ มาสร้างรังคล้ายรังนก ไข่ของปลาชนิดนี้มีขนาดใหญ่ มีไขมันมาก ลอยน้ำ
แหล่งที่อยู่ : ปลาแรดในแม่น้ำและหนองบึงที่มีทางน้ำติดต่อกับแม่น้ำ ภาคกลางพบที่แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และในลำน้ำเจ้าพระยาและสาขา ทางภาคใต้เรียกว่า ปลาเม่นหรือปลามิน พบในลำน้ำตาปีและสาขา

สิ่งที่คุณจะได้รับ



สิ่งที่คุณจะได้รับ

         นอกจากได้เยี่ยมชม ได้ตื่นตาตื่นใจ และได้รับข้อมูลของสัตว์น้ำนานาพันธุ์ ยังมีข้อมูลที่น่ารู้ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น ภาพแสดงกายวิภาคปลา ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับป่าชายเลน และข้อมูลแสดงลักษณะรูปร่างสันฐานของของปลา ถิ่นที่อยู่ของสัตว์ในท้องทะเล เป็นต้น










      


วีดีโอแนะนำสถานที่


วีดีโอแนะนำสถานที่


...............................................................................................


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.youtube.com/watch?v=PFk2oPNCRuk


ซิ่งสนุกมันส์ไปกับโกคาร์ท



ซิ่งสนุกมันส์ไปกับโกคาร์ท




สนามโกคาร์ทของสงขลาอควาเรี่ยมถือเป็นสนามแห่งแรกของภาคใต้ตอนล่าง โดยมีความยาวรอบ ประมาณ 700 เมตร ด้วย Layout ของสนามที่ถูกออกแบบได้อย่างลงตัว พร้อมรถที่มีให้เลือกทั้งแบบ ที่นั่งแบบเดี่ยว และ ที่นั่งแบบคู่


ราคารถโกคาร์ท
-โกคาร์ทเดี่ยว 400 บาทต่อคัน -โกคาร์ทคู่ 450 บาทต่อคัน - เล่นได้ 5 รอบสนาม
-สมาชิกบัตรพีวีเลจการ์ด -เดี่ยว 200 บาทต่อคัน -คู่ 200 บาทต่อคัน

-หางบัตรเข้าชมอะควาเรี่ยมนำไปเป็นส่วนลดได้ 100บาทต่อคัน 

ที่มา https://www.facebook.com/songkhlaaquariumfanpage/photos
................................................................................................

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
http://www.songkhlaaquarium.com/gokart.php